Menu
Previous
Next

Latest Post

ข่าวดารา

กีฬา

ข่าวช่วยเหลือสังคม

บันเทิง

ข่าวประจำวัน

Recent Posts

ปิล ชวนันท์ หล่อมากสวมบทบาทเป็นนายแบบ

Monday, February 15, 2016 /
 น้องชายพระเอกแสนดี ปอ ทฤษฎี หนุ่มสุดฮอต ล่าสุดสวมบทเป็นนายแบบแล้ว 
เป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้สำหรับ ปิล ชวนันท์ สหวงษ์ น้องชายของพระเอกแสนดีปอ ทฤษฎี ด้วยรูปร่างหน้าที่หล่อเหลาอัธยาศัยดีเป็นที่ประทับใจของแฟนคลับและสื่อมวลชน จนทำให้เกิดกระแสแรงเชียร์ให้ ปิล เข้าวงการเดินตามรอยเท้าพี่ชาย  
ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ว่ามีผู้จัดละครมาพูดคุยอยู่บ้างแต่ไม่รู้จะจริงจังหรือเปล่า ส่วนตัวสนใจงานวงการบันเทิงเหมือนกันเพราะเป็นประสบการณ์ใหม่ 
ล่าสุด ดูเหมือน ปิล จะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงมาครึ่่งขาแล้ว สลัดมาดหนุ่มแบงค์มาเป็นนายแบบขึ้นปกให้กับนิตยสารสุดสัปดาห์ เพียงแค่รูปแรกที่ถูกปล่อยออกมานั้น กระแสแฟนคลับสาวๆ ต่างกรี๊ดกันเลยทีเดียว เป็นเพียงออร์เดิร์ฟเท่านั้น เล่มจริงจะเป็นอย่างไรติดตามกันที่นิตยสารสุดสัปดาห์เลยนะจ๊ะ  
เครดิตภาพจาก IG: sudsupdapilchawanan_home เฟซบุ๊ค สุดสัปดาห์แฟนคลับ






ที่มา http://news.sanook.com/1949610/

ยินเสียงร้องจากป่า วิ่งไปดู เจอทารกทิ้งไว้ในถุง ชาวบ้านตั้งชื่อ น้องวาเลนไทน์

/
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.ชัยศรี ผลดี ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรสงครามได้รับแจ้งจากนายวีรชัย บูรณะสิงห์ อายุ 55 ปี ชาว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ว่าพบเด็กทารกวัยแรกเกิดถูกนำมาทิ้งในกองขยะถังขยะภายในป่าหญ้าหลังซอยทรงพล เยื้องกับเรือนจำกลางสมุทรสงคราม จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม
จุดเกิดเหตุพบเด็กทารกเพศชายวัยแรกเกิด มีผ้าลายสีชมพูห่อหุ้มร่างกายถูกยัดอยู่ภายในพลาสติกใสทิ้งไว้ในกองขยะ จากการตรวจสอบพบว่าเด็กทารกอยู่ในสภาพอายุเพิ่งคลอดไม่นาน เนื้อตัวแดงก่ำยังมีสายรกและเมือกติดตัวอยู่ ลำคอมีผ้าแดงพาดอยู่คล้ายถูกรัดคอ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านจึงรีบแก้ออกและนำตัวเด็กทารกออกจากถุงส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
ล่าสุดผลการตรวจพบว่าเด็กทารกปลอดภัยปกติและสมบูรณ์แข็งแรงดี น้ำหนักตัว 3,320 กรัม ท่ามกลางความโล่งใจของเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม จึงตั้งชื่อให้เด็กชายคนนี้ว่า "น้องวาเลนไทน์"
นายวีรชัยพล ผู้พบเด็กทารกและเป็นผู้แจ้งเจ้าหน้าที่เล่าว่า ก่อนหน้านี้ขณะที่ตนกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านพักซึ่งห่างจากป่าหญ้าประมาณ 10 เมตรได้ยินเสียงคล้ายเด็กทารกร้องอยู่จากป่าหญ้าตนจึงตามชาวบ้านเข้าไปดูตามเสียงร้องจนกระทั่งได้ยินเสียงดังมาจากถุงดังกล่าวจึงรีบแกะออกเพื่อตรวจสอบก็เห็นเป็นทารกเพศชายวัยแรกเกิดจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบและรีบนำเด็กทารกส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงในทันที
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าแม่ของเด็กซึ่งน่าจะเป็นวัยรุ่นคลอดลูกออกมาแล้ว น่าจะมีความจำเป็นบางอย่างที่ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้จึงใช้ผ้าแดงรัดคอยัดใส่ถุงมัดปากหวังให้เด็กตายนำมาทิ้งในพงหญ้าซึ่งจะต้องหาตัวแม่ของทารกน้อยรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา http://news.sanook.com/1949590/

ลูกค้าผงะ! กลุ่มวัยรุ่นโยนประทัดใส่ร้านข้าวแกง คาดฉุนไม่อร่อย

/
ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี เข้าตรวจสอบร้านข้าวแกง บริเวณสี่แยกประปา เขตเทศบาลเมืองราชบุรี หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้ประทัดยักษณ์โยนใส่ ด้าน เจ้าของร้าน คาดเกิดจากความไม่พอใจ หลังซื้อแกงกิน แล้วบอก "ไม่อร่อย"
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 59 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้เข้าตรวจสอบร้านข้าวแกง ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกประปา เขตเทศบาลเมืองราชบุรี หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้ประทัดยักษ์โยนใส่ โดยภายในร้าน พบผ้าปูโต๊ะมีร่องรอยไฟไหม้จนเป็นรูโหว่ และยังพบเศษกระดาษประทัดสีแดงกระจายเต็มพื้น นอกจากนี้ที่เตาและถาดใส่กับข้าวก็มีเศษประทัดเต็มไปหมด
นางทิพย์รัตน์ อายุ 50 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ร้านตนเคยถูกคนนำประทัดยักษ์มาแล้วครั้งหนึ่ง ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากกลุ่มวัยรุ่นมาซื้อแกงไปรับประทาน แล้วกลับมาต่อว่า "ไม่อร่อย" จึงเกิดการโต้เถียงกัน
ขณะที่ด้าน นายดิเรก ซึ่งเป็นลูกค้าที่ยืนรอซื้อแกงซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังหันหลังสั่งแกงใส่ถุงอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวที่ข้างตัว ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งออกมา โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ที่มา http://news.sanook.com/1949554/

เมียคว้าปืนยิงลูกขวบครึ่ง ก่อนฆ่าตัวตาม ประชดผัว

/
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.สามารถ พึ่งไพศาล พนักงานสอบสวน สภ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุยิงกันตายมีผู้เสียชีวิต 2 คน เหตุเกิด หมู่ 1 บ้านดารา ต.บ้านดารา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นพ.ชัยยะ น้อยมา แพทย์เวรโรงพยาบาลอำเภอพิชัย เจ้าหน้าที่กู้ภัยวัดหมอนไม้
ที่เกิดเหตุเป็นร้านค้ารับซื้อไม้ยูคากำนันสบาย ภายในร้านเจ้าหน้าที่พบศพผู้หญิงสวมเสื้อยืดแขนยาวลายทางสีแดง นุ่งกางเกงยีนสีน้ำเงิน นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นปูนกระเบื้องภายในร้าน โดยมีอาวุธปืน ขนาด 9 มม.ตกอยู่ระหว่างขา พบหัวกระสุนปืนที่ใช้แล้วตกอยู่ จำนวน 1 หัว ที่บริเวณศรีษะพบกองเลือดไหลนองพื้น สภาพศพนอนหงายหน้าขึ้นเพดาน เจ้าหน้าที่พบปอกกระสุนปืนตกอยู่ห่างจากศพผู้เสียชีวิตประมาณ 2 เมตร จำนวน 2 ปอก ทราบชื่อ นางณัฐวลา อายุ 20 ปี
ที่บริเวณโต๊ะยาวสำหรับทำงานหน้าช่องกระจกเปิดปิดรับลูกค้า พบศพเด็กผู้ชายสวมเสื้อยืดสีเหลือง นุ่งกางเกงยีนขาสั้นสีฟ้า นอนเสียชีวิตอยู่ระหว่างเครื่องปิ้นเตอร์กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ในลักษณะตาค้าง โดยนอนทับเอกสารเอาไว้ ทราบว่าเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต อายุ 1 ปี 6 เดือน เจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนปืนใช้แล้วตกอยู่บนโต๊ะ จำนวน 1 ลูก พบรูกระสุนปืนที่บานกระจกเปิดปิดรับลูกค้า 1 รู และพร้อมพบเอกสารเขียนด้วยหมึกสีน้ำเงินถึงพ่อแม่และคนรักใจความว่า
"พ่อ-แม่ ชาติหน้ามีจริงขอเกิดเป็นลูกแม่, ป๋า(หมายถึงคนรัก) รักคุณเสมอ ไม่มีอะไรจะอธิบาย แต่เชื่อว่า ป๋ารู้ว่า ทำไปทั้งหมดเพื่ออะไร" วางอยู่บนโต๊ะจำนวน 1 แผ่น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บหลักฐานทั้งหมดในที่เกิดเหตุเอาไว้เป็นหลักฐาน
จากการชันสูตรพลิกศพ นางณัฐวลา พบที่บริเวณขมับด้านขวามีรอยกระสุนปืนยิงเข้าและไปทะลุออกด้านซ้าย จำนวน 1 รู ส่วนเด็กชายอัมรินทร์พบรอยกระสุนปืนเข้าที่ด้านบนขวาของศรีษะทะลุออกมาที่บริเวณคางล่างด้านขวา
จากการสอบสวน นายสบาย เจ้าของกิจการร้านที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า นายอำนาจ บุตรชาย อายุ 32 ปี วิศวกรประจำโรงสีในอำเภอพิชัย อยู่กินกับนางณัฐวลา อดีตลูกจ้างโรงพยาบาลอำเภอพิชัย มาเป็นเวลา 4 ปี และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน ฝ่ายหญิงมักระแวงและหึงหวงฝ่ายชาย ที่ชอบไปแสดงกิริยากับผู้หญิงอื่นในทำนองมีกิ๊กหรือนอกใจเมีย จนเกิดการทะเลาะเบาะแว้งหึงหวงกัน
ช่วงนี้ นายอำนาจ ไม่อยู่บ้านเนื่องจากติดภารกิจไปดูงานที่จังหวัดกาญจนบุรีนานนับเดือน คาดว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝ่ายหญิงเกิดอาการน้อยใจและใช้อาวุธปืน ซึ่งเป็นของตนเองและเก็บไว้ที่ห้องนอนภายในร้าน ยิงลูกชายก่อนจะยิงตัวเองจนเสียชีวิตโดยทิ้งจดหมายลาตายเอาไว้ก่อน
ที่มา http://news.sanook.com/1949410/

วาเลนไทน์สยอง! อส.หึงโหดชักเอ็ม 16 ยิงแฟนสาว ก่อนตายตาม

/


หนุ่มสาวคู่รักอาสาสมัครรักษาดินแดน แวะฉลองวันวาเลนไทน์ที่รีสอร์ต แต่เกิดมีปากเสียงไม่เข้าใจกัน เปิดฉากยิงใส่แฟนสาวและยิงตัวตายตาม สุดเศร้ากำลังจะแต่งงานกันในเดือนหน้า
 
เมื่อวานนี้ (14 ก.พ.) ร.ต.อ.กิตติกร ลุนทาลา ร้อยเวร สภ.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเหตุในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวร รพ.เซกา และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างศรีวิไลจุดเซกา
 
จุดเกิดเหตุเป็นรีสอร์ตกลางทุ่งนา ภายในห้องพักหมายเลข 12 พบประตูห้องถูกเปิดแง้มอยู่ เจ้าหน้าที่เปิดประตูเข้าไปถึงกับผงะ เมื่อพบศพชายหญิงเสียชีวิต สภาพกึ่งเปลือยกายอยู่ในห้อง ถูกยิงเลือดสาดกระเซ็น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว
 
ศพแรกเป็นชาย นอนอยู่ระหว่างเตียงกับโซฟา ทราบชื่อ นายนาวิน อายุ 29 ปี สวมเสื้อเชิ้ตลายแขนยาวตัวเดียวหน้าอกเปิดไม่ปิดกระดุมเสื้อ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าที่หน้าท้องทะลุ 1 นัด จนไส้ทะลักออกมา และมีบาดแผลถูกยิงเข้าขมับด้านขวาทะลุกลางศีรษะ โดยอาวุธปืนเอ็ม 16 วางทับอยู่ปลายเท้า
 
ส่วนอีกศพเป็นหญิง ทราบชื่อ นางสาวอรพรรณ อายุ 26 ปี นอนอยู่บนเตียงนอน สภาพเปลือยหน้าอก ส่วนบนมีผ้าห่มปิดด้านล่างจากเอวลงมา มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกัน เข้าที่ใต้ราวนมซ้าย 2 นัด ทะลุด้านหลังและหัวไหล่ซ้าย และอีกนัดเข้าที่โคนนิ้วหัวแม่โป้งหัวกระสุนฝังอยู่ตรงนิ้วกลาง โดยพบปลอกกระสุนตกอยู่บนเตียง 2 ปลอกด้านล่างอีก 5 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
 
จากการสอบสวน เจ้าของรีสอร์ต ทราบว่า เวลาประมาณ 16.00 น. ผู้ก่อเหตุได้ขับรถปิกอัพอีซูซุ สีบรอนซ์ทอง เข้ามาเปิดห้องนอนชั่วคราว จนกระทั่งช่วงหัวค่ำเกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แล้วหยุดไปประมาณ 10 นาที จึงเสียงดังขึ้นอีก 2 นัด ก่อนจะเงียบไป หลังจากนั้นตนได้เดินไปดูเห็นประตูห้องเบอร์ 12 เปิดแง้มอยู่ และประตูรถก็เปิดทิ้งเอาไว้  ตนเกรงจะเกิดอันตรายจึงได้โทรแจ้งตำรวจ จึงรู้ว่าเกิดเหตุยิงกันตาย
 
ด้าย นายนายวรสิทธิ์ สังขพันธุ์ ปลัดอำเภอบึงโขงหลงฝ่ายความมั่นคง หลังรุดดูที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทั้งคู่เป็นอาสาสมัครรักดินแดน ผู้ใต้บังคับบัญชาของตน ฝ่ายหญิงเป็นคนหน้าตาดี มักจะมีคนมารู้จักด้วยเป็นจำนวนมาก จึงมีเรื่องทะเลาะหึงหวงกับฝ่ายชายเป็นประจำ แต่ทั้งคู่คบหาดูใจเป็นแฟนกันมาได้ 2 ปีแล้ว และมีแผนที่จะแต่งงานกันในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ โดยผู้ใหญ่ได้ไปสู่ขอกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
พ.ต.อ.พิเชฐ วงษ์บุรี ผกก.สภ.เซกา กล่าวว่า จากการสอบสวยทราบว่า หลังจากทั้งคู่นัดมาฉลองวันวาเลนไทน์ที่จุดเกิดเหตุ คาดว่าทั้งคู่น่าจะมีปากเสียงทะเลาะกัน ฝ่ายชายอาจจะไม่พอใจที่ฝ่ายหญิงมีผู้ชายอื่นมาพัวพันเยอะ แม้ว่าฝ่ายหญิงจะยืนยันว่ารักเดียวใจเดียวก็ตาม
 
แต่คาดว่าฝ่ายชายเกิดความหึงหวงและไม่เชื่อใจ ฝ่ายชายเดินออกไปเอาปืนเอ็ม 16 อยู่ในรถออกมาขู่แต่ไม่เป็นผลจึงโมโหลั่นไกเข้าใส่ฝ่ายหญิงดับ จากนั้นจึงลงจากเตียงไปนั่งพิงโซฟาใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงเฉียดเข้าหน้าท้องตัวเองก่อนจะตัดสินใจครั้งสุดท้าย ยกอาวุธปืนขึ้นยิงเข้าขมับตัวเอง เพื่อตายตามแฟนสาวไปอย่างน่าสะเทือนใจ

ที่มา http://news.sanook.com/1949406/

ยกย่องเด็กเทคนิคอ่างทอง ถ่ายคลิปปล้นชัด ตร.ซัดจับตัวโจร

Saturday, February 13, 2016 /
นักศึกษาหนุ่มเทคนิคอ่างทอง กลายเป็นฮีโร่ช่วยจับโจร ถ่ายคลิปนาทีปล้นกระชากกระเป๋า หลักฐานชัดสู่การจับกุมโจร พบมีประวัติในพื้นที่เพียบ
 
เมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก.ภ.จว.อ่างทอง  พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ รองผบก.ภ.จว.อ่างทอง พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายอำนาจ อายุ 40 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์หน้าร้านสะดวกซื้อ ถนนโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ตำบลตลาดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา
 
เหตุดังกล่าว คนร้ายได้ทรัพย์สินของ นางศิริรดา อายุ 38 ปี  ไปหลายรายการ แต่ต่อมามีพลเมืองดีส่งภาพคนร้ายก่อเหตุเป็นคลิปวีดีโอมาให้เป็นหลักฐาน พบเห็นคนร้ายสวมเสื้อคลุมสีครีมมีตัวหนังสือ cucic ขับขี่จักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100s สีน้ำเงิน ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
 
จากการตรวจสอบ ผู้ก่อเหตุคือ นายอำนาจ อายุ 40 ปี  ทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ 2 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ขณะก่อเหตุได่มาพักอาศัยอยู่กับภรรยาที่บ้านอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง   จึงทำการตรวจค้นจับกุม
 
พบรถจักรยานยนต์และพบเสื้อผ้าตัวเดียวกับที่สวมใส่ก่อเหตุ รวมทั้งหมวกกันน็อคสีดำ 1 ใบ หมวกไหมพรม สีน้ำตาล 1 ใบ เสื้อแขนยาวสีดำแดง และเสื้อแขนยาวสีเลือดหมู 2 ตัว  บัตรเอกสารต่างๆ และสลากกินแบ่งรัฐบาล เสื้อแขนยาวสีครีมและเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน 2 ตัว  กางเกงขายาวสีขาว เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าวิ่งราวชิงทรัพย์มา ได้โทรศัพท์ 4 เครื่อง และเงินสด 500 บาท
 
จากการสอบสวนขยายผลทราบว่า นายอำนาจ  ได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มาก่อนหน้านี้อีกหลายครั้ง ก่อเหตุบริเวณหน้าร้านแต้เจริญซุปเปอร์มาเก็ต เมืองอ่างทอง  และวิ่งราวทรัพย์ในตลาดวิเศษชัยชาญ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงนำตัว มอบให้ พงส.สภ.เมืองอ่างทองดำเนินคดี และ พงส.สภ.วิเศษชัยชาญ ได้เดินทางมาขออายัดตัว เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
 
นอกจากนี้ พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก.ภ.จว.อ่างทอง ได้มอบกระเช้าของขวัญเป็นกำลังใจให้แก่ นายวิษณุ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ปวส.2  ช่างเครื่องยนต์  วิทยาลัยเทคนิคอ่างทอง ที่เป็นฮีโร่หนุ่ม สามารถติดตามช่วยเหลือเหยื่อหลังถูกกระชากกระเป๋าวิ่งราวทรัพย์ โดยการขี่รถจักรยานยนต์ติดตามคนร้าย พร้อมได้ถ่ายคลิปภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจนเป็นที่มาในการเข้าจับผู้ต้องหาในครั้งนี้

ที่มา http://news.sanook.com/1948478/

ตร.ดีเด่นเมืองนนท์ ออกเวรกลับบ้าน จยย.คว่ำอัดเสาไฟดับ

/
เมียเข่าทรุดเห็นศพ ดาบตำรวจ ขี่รถกลับไม่ถึงบ้าน จยย.คว่ำกลางถนนรัตนาธิเบศร์ หลังออกเวรคุมจราจรห้างดัง ชี้เป็นตำรวจดีเด่น เพื่อนตำรวจสุดเสียใจ
 
เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.นัฐกานต์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิตบนถนนรัตนาธิเบศร์ ก่อนถึงร้านอาหาร ป.รัตนา ต.บางกระสอ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน ผกก. พ.ต.ท.ยิ่งยศ สุวรรณโณ รอง ผกก.จร. พ.ต.ท.คมวุฒิ จองบุญวัฒนา สว.จร.มูลนิธิร่วมกตัญูญู แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
 
พบร่างผู้เสียชีวิตในชุดเสื้อคอกลมสีขาว กางเกงสีกากี ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ต.ดำรงชัย ฝอฝน อายุ 39 ปี ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองนนทบุรี "รหัสนนทรีย์ 6150" พักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านริมสวนธนานนท์ ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดข้างเสาไฟฟ้า สภาพศีรษะแตก เลือดไหลนอง หมวกกันน็อคตราโล่กระเด็นตกอยู่ข้างศพ ห่างไปเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิกสีแดง-ดำ พลิกคว่ำสภาพพังเสียหาย
 
ในเวลาต่อมา ภรรยาผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นสภาพศพถึงกับร้องไห้แทบขาดใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันปลอบใจ ภรรยาของ ด.ต.ดำรงชัย กล่าวทั้งน้ำตาว่า อยู่กินกับสามีมานานหลายปี มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 9 ขวบ คนเล็ก 4 ขวบ ไม่คิดว่าสามีจะมาด่วนจากไปเร็วเช่นนี้ 
 
ขณะที่ พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน ผกก. เปิดเผยว่าผู้ตายเป็นตำรวจที่มีความขยันขันแข็ง ปฎิบัติหน้าที่ด้วยดีเสมอมา จนเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนตำรวจและผู้บังคับบัญชา ขณะเกิดเหตุก็เพิ่งออกเวรอำนวยการจราจร บริเวณห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดของตัวเองก็ตาม แต่ก็ยังมาทำงาน จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียใจเป็นอย่างมาก 
 
เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาสาเหตุเป็นประสบอุบัติเหตุ หรือ มีคู่กรณีรถคันอื่นเฉี่ยวชน จนพลิกคว่ำเสียชีวิต

ที่มา http://news.sanook.com/1948474/